ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?

ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
Photo by Markus Winkler / Unsplash

การซื้อประกันสุขภาพไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมีหลักประกันทางการเงินเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังเป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย หลายคนอาจสงสัยว่าประกันสุขภาพสามารถลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ

ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?

ตามกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประเทศไทย เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี โดยรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  1. เบี้ยประกันชีวิต
    • ลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
  2. เบี้ยประกันสุขภาพ
    • ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี (รวมกับเบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล)
  3. เบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
    • ลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี (รวมกับเบี้ยประกันสุขภาพ)

หมายเหตุ: วงเงินลดหย่อนรวมสำหรับเบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ

เพื่อให้สามารถลดหย่อนภาษีได้ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  1. กรมธรรม์ต้องออกโดยบริษัทประกันภัยที่ถูกกฎหมาย
    • บริษัทประกันภัยต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
  2. กรมธรรม์ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองไม่น้อยกว่า 10 ปี
    • สำหรับประกันชีวิต
    • สำหรับประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไม่มีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาคุ้มครอง
  3. ผู้เสียภาษีต้องเป็นผู้ถือกรมธรรม์
    • เบี้ยประกันที่นำมาลดหย่อนภาษีต้องเป็นกรมธรรม์ที่ผู้เสียภาษีเป็นผู้ถือกรมธรรม์เท่านั้น
  4. ต้องมีเอกสารหลักฐาน
    • ใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารการชำระเบี้ยประกัน
    • หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันจากบริษัทประกันภัย

ตัวอย่างการคำนวณลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ

สมมติว่าคุณมีรายได้ทั้งปี 1,000,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ดังนี้

  1. เบี้ยประกันชีวิต: 50,000 บาท
  2. เบี้ยประกันสุขภาพ: 20,000 บาท
  3. เบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล: 5,000 บาท

ขั้นตอนการคำนวณ

  • เบี้ยประกันชีวิต: ลดหย่อนได้เต็มจำนวน 50,000 บาท
  • เบี้ยประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล: รวมกันได้ 25,000 บาท (ไม่เกินวงเงินสูงสุด)
    • เบี้ยประกันสุขภาพ 20,000 บาท + เบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล 5,000 บาท = 25,000 บาท
  • รวมลดหย่อน: 50,000 บาท (ประกันชีวิต) + 25,000 บาท (ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ) = 75,000 บาท

ฐานภาษีที่ลดลง

  • รายได้ทั้งปี: 1,000,000 บาท
  • ลดหย่อนเบี้ยประกัน: 75,000 บาท
  • ฐานภาษีใหม่: 1,000,000 - 75,000 = 925,000 บาท

จากตัวอย่างนี้ การลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันจะช่วยให้คุณประหยัดภาษีได้มากขึ้น

ประโยชน์ของการลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ

  1. ประหยัดภาษี
    • การลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันสุขภาพช่วยลดฐานภาษี ทำให้คุณต้องจ่ายภาษีน้อยลง
  2. มีหลักประกันทางการเงิน
    • นอกจากการประหยัดภาษีแล้ว การมีประกันสุขภาพยังช่วยให้คุณมีหลักประกันทางการเงินเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ
  3. ส่งเสริมการวางแผนการเงิน
    • การซื้อประกันสุขภาพและการลดหย่อนภาษีเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินที่ดี ช่วยให้คุณมีชีวิตที่มั่นคงและปลอดภัย

เคล็ดลับในการลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ

  1. วางแผนการซื้อประกันล่วงหน้า
    • ควรซื้อประกันสุขภาพก่อนสิ้นปี เพื่อให้สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ทันเวลา
  2. ตรวจสอบวงเงินลดหย่อน
    • ตรวจสอบว่าเบี้ยประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลรวมกันไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี
  3. เก็บเอกสารให้ครบถ้วน
    • เก็บใบเสร็จรับเงินและเอกสารการชำระเบี้ยประกันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการยื่นภาษี
  4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
    • หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือตัวแทนประกันภัยเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

สรุป

เบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี (รวมกับเบี้ยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล) โดยมีเงื่อนไขว่ากรมธรรม์ต้องออกโดยบริษัทประกันภัยที่ถูกกฎหมาย และผู้เสียภาษีต้องเป็นผู้ถือกรมธรรม์ การลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดภาษี แต่ยังช่วยให้คุณมีหลักประกันทางการเงินเมื่อเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ

ดังนั้น การซื้อประกันสุขภาพจึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของการวางแผนการเงินและการลดหย่อนภาษี อย่าลืมวางแผนล่วงหน้าและตรวจสอบเงื่อนไขให้ดี เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ!