ประกันสุขภาพคุ้มครองโรคอะไรบ้าง?
ประกันสุขภาพเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยหรือการรักษาพยาบาล โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการรักษาโรคหรืออาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าประกันสุขภาพคุ้มครองโรคอะไรบ้าง และมีข้อยกเว้นอะไรที่ควรรู้ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคและเงื่อนไขที่ประกันสุขภาพมักคุ้มครอง
โรคที่ประกันสุขภาพมักคุ้มครอง
ประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะคุ้มครองโรคและอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น หลังจากทำประกัน และไม่ใช่โรคที่เกิดก่อนทำประกัน (Pre-existing Conditions) โรคที่ประกันสุขภาพมักคุ้มครอง ได้แก่
- โรคทั่วไป
- ไข้หวัดใหญ่
- โรคติดเชื้อต่างๆ เช่น ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ
- โรคทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม
- โรคเรื้อรัง
- เบาหวาน
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
- ไส้ติ่งอักเสบ
- นิ่วในถุงน้ำดี
- เนื้องอกหรือซีสต์ที่ไม่ใช่มะเร็ง
- โรคมะเร็ง
- ประกันสุขภาพส่วนใหญ่จะคุ้มครองการรักษามะเร็ง ทั้งการผ่าตัด เคมีบำบัด และรังสีรักษา
- แต่บางแผนอาจมีข้อยกเว้นสำหรับมะเร็งบางชนิดหรือระยะของโรค
- โรคที่เกิดจากอุบัติเหตุ
- การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
- การหกล้มหรือกระดูกหัก
- แผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก
- โรคที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล
- การนอนโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคหรืออาการบาดเจ็บ
- การรักษาในห้องฉุกเฉินหรือห้อง ICU
- โรคที่ต้องรักษาด้วยการแพทย์เฉพาะทาง
- การรักษาทางทันตกรรม (ในบางแผนประกัน)
- การรักษาด้วยกายภาพบำบัด
- การรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก เช่น การฝังเข็ม
โรคที่ประกันสุขภาพมักไม่คุ้มครอง
แม้ว่าประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองที่กว้างขวาง แต่ก็มีโรคและเงื่อนไขบางอย่างที่มักไม่ได้รับการคุ้มครอง ได้แก่
- โรคที่เกิดก่อนทำประกัน (Pre-existing Conditions)
- โรคหรืออาการบาดเจ็บที่มีอยู่ก่อนทำประกัน มักไม่ได้รับการคุ้มครอง
- เช่น หากคุณเป็นเบาหวานก่อนทำประกัน การรักษาเบาหวานจะไม่ได้รับการคุ้มครอง
- โรคที่เกิดจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตร
- การรักษาที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และคลอดบุตรมักไม่รวมอยู่ในประกันสุขภาพพื้นฐาน
- แต่บางแผนประกันอาจมีข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับการคุ้มครองนี้
- โรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง
- โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติด
- การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาเสี่ยงอันตราย
- โรคทางจิตเวช
- โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรือโรคทางจิตเวชอื่นๆ มักไม่ได้รับการคุ้มครอง
- แต่บางแผนประกันอาจมีข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับการรักษาทางจิตเวช
- โรคที่เกิดจากสงครามหรือการก่อการร้าย
- การบาดเจ็บหรือโรคที่เกิดจากสงคราม การก่อการร้าย หรือการจลาจล มักไม่ได้รับการคุ้มครอง
- โรคที่เกิดจากการทำศัลยกรรมความงาม
- การผ่าตัดเพื่อความงาม เช่น การทำตาสองชั้น การเสริมจมูก มักไม่ได้รับการคุ้มครอง
- แต่หากเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติทางร่างกาย เช่น แผลเป็นจากอุบัติเหตุ อาจได้รับการคุ้มครอง
เคล็ดลับในการเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสม
- ศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง
- ตรวจสอบว่าแผนประกันที่คุณสนใจคุ้มครองโรคอะไรบ้าง และมีข้อยกเว้นอะไร
- พิจารณาโรคที่คุณมีความเสี่ยง
- หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็งหรือโรคหัวใจ ควรเลือกแผนประกันที่คุ้มครองโรคเหล่านี้
- ตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกัน
- ทำความเข้าใจเงื่อนไขและข้อยกเว้นของกรมธรรม์ให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาการเรียกร้องค่าสินไหมในอนาคต
- เปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัท
- ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัท เพื่อเลือกแผนที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
- หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือตัวแทนประกันภัยเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
สรุป
ประกันสุขภาพให้ความคุ้มครองที่กว้างขวางสำหรับโรคและอาการบาดเจ็บต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากทำประกัน อย่างไรก็ตาม มีโรคและเงื่อนไขบางอย่างที่มักไม่ได้รับการคุ้มครอง เช่น โรคที่เกิดก่อนทำประกัน โรคที่เกิดจากการตั้งครรภ์ และโรคที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง ดังนั้น การศึกษารายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขของกรมธรรม์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
การเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีสุขภาพกายและสุขภาพการเงินที่แข็งแรง พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในชีวิตได้อย่างมั่นใจ!