หากบริษัทประกันปิดกิจการ จะได้รับเงินคืนหรือไม่?

หากบริษัทประกันปิดกิจการ จะได้รับเงินคืนหรือไม่?

การซื้อประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในอนาคต อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจมีความกังวลว่าหากบริษัทประกันภัยที่เราซื้อกรมธรรม์ไว้ปิดกิจการ จะส่งผลต่อกรมธรรม์ของเราหรือไม่ และเราจะได้รับเงินคืนหรือไม่ บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหากบริษัทประกันปิดกิจการ

กรณีบริษัทประกันปิดกิจการ

ในประเทศไทย บริษัทประกันภัยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งมีมาตรการในการคุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์หากบริษัทประกันภัยประสบปัญหาทางการเงินหรือปิดกิจการ

สิ่งที่เกิดขึ้นหากบริษัทประกันปิดกิจการ

  1. การโอนกรมธรรม์ให้บริษัทประกันภัยอื่น
    • หากบริษัทประกันภัยปิดกิจการ คปภ. จะดำเนินการโอนกรมธรรม์ทั้งหมดให้บริษัทประกันภัยอื่นที่ยังดำเนินกิจการอยู่
    • ผู้ถือกรมธรรม์จะยังคงได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขเดิม โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
  2. การจ่ายเงินชดเชย
    • ในกรณีที่บริษัทประกันภัยไม่สามารถโอนกรมธรรม์ให้บริษัทอื่นได้ คปภ. จะใช้กองทุนคุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ถือกรมธรรม์
    • วงเงินชดเชยสูงสุดคือ 1 ล้านบาทต่อกรมธรรม์ สำหรับประกันชีวิต และ 1 ล้านบาทต่อกรมธรรม์ สำหรับประกันวินาศภัย (เช่น ประกันสุขภาพ)
  3. การรับเงินคืน
    • หากกรมธรรม์ของคุณมีมูลค่าสะสม (เช่น ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์) คุณอาจได้รับเงินคืนบางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินของบริษัทประกันภัย
    • ในกรณีที่บริษัทประกันภัยมีทรัพย์สินเพียงพอ ผู้ถือกรมธรรม์อาจได้รับเงินคืนเต็มจำนวน

ขั้นตอนที่ผู้ถือกรมธรรม์ควรทำ

  1. ติดตามข่าวสาร
    • ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานะของบริษัทประกันภัย หากมีข่าวว่าบริษัทกำลังประสบปัญหาทางการเงินหรืออาจปิดกิจการ
  2. ติดต่อบริษัทประกันภัย
    • หากบริษัทประกันภัยประกาศปิดกิจการ ให้ติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานะกรมธรรม์ของคุณ
  3. ติดต่อ คปภ.
    • หากไม่ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนจากบริษัทประกันภัย ให้ติดต่อ คปภ. เพื่อขอความช่วยเหลือและข้อมูลเพิ่มเติม
  4. เก็บเอกสารให้ครบถ้วน
    • เก็บเอกสารกรมธรรม์และหลักฐานการชำระเบี้ยประกันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการเรียกร้องสิทธิ์หากจำเป็น

วิธีป้องกันความเสี่ยงหากบริษัทประกันปิดกิจการ

  1. เลือกบริษัทประกันภัยที่มีความมั่นคง
    • ก่อนซื้อประกันสุขภาพหรือประกันชีวิต ควรตรวจสอบความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัย โดยดูจากอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) จากบริษัทจัดอันดับ เช่น TRIS Rating
  2. กระจายความเสี่ยง
    • ไม่ควรซื้อกรมธรรม์จากบริษัทประกันภัยเพียงแห่งเดียว ควรกระจายความเสี่ยงโดยซื้อกรมธรรม์จากหลายบริษัท
  3. ศึกษาข้อมูลบริษัทประกันภัย
    • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทประกันภัย เช่น ประวัติการดำเนินงาน ความน่าเชื่อถือ และรีวิวจากผู้ใช้บริการ

สรุป

หากบริษัทประกันภัยปิดกิจการ ผู้ถือกรมธรรม์ยังคงได้รับการคุ้มครองตามเงื่อนไขเดิม เนื่องจากกรมธรรม์จะถูกโอนให้บริษัทประกันภัยอื่นที่ยังดำเนินกิจการอยู่ หรือได้รับเงินชดเชยจากกองทุนคุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์ของ คปภ. ดังนั้น ผู้ถือกรมธรรม์ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป แต่ควรติดตามข่าวสารและเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อเรียกร้องสิทธิ์หากจำเป็น

การเลือกบริษัทประกันภัยที่มีความมั่นคงและกระจายความเสี่ยงโดยการซื้อกรมธรรม์จากหลายบริษัท จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตของคุณ!