ชี้เป้า! คลินิกสุขภาพครบวงจร สำหรับชาว LGBTQ+

ชี้เป้า! คลินิกสุขภาพครบวงจร สำหรับชาว LGBTQ+
Photo by Margaux Bellott / Unsplash

ตลอดเดือนมิถุนายนเป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นสีรุ้งเจิดจรัสทั่วทุกแห่งหน ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้จะมีสถานที่จัดงานที่สร้างสีสันและความบันเทิงมากมายตามแลนด์มาร์กสำคัญทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น การเดินขบวนพาเหรด งานศิลปะ หรือดนตรี บอกเลยว่าชาว LGBTQ+ ใช้ร่างกายกันหนักหนาแน่นอน

แต่ถึงจะปาร์ตี้กันสนุกสุดแหว่งอย่างไร เรื่องสุขภาพก็สำคัญ การเปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศปัจจุบัน ทำให้มี “คลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย” มากยิ่งขึ้น ทั้งในรพ.รัฐบาลและรพ.เอกชน ต่างก็เปิดคลินิกครบวงจรสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ขึ้น ลองมาดูกันว่าคลินิกสุขภาพเพศหลากหลายมีที่ไหนบ้าง และส่วนใหญ่ให้บริการในด้านอะไร วันนี้เราจะพาไปดูกันนนน!


🌈 ประวัติความเป็นมาของเทศกาล Pride Month

เบื้องหลังภาพความสนุกสนานของ LGBTQ Pride ในปัจจุบัน แท้จริงแล้วเริ่มต้นจากการถูกเลือกปฏิบัติ ถูกใช้ความรุนแรงและการถูกตีตราว่าคนกลุ่ม LGBTQ+ มีความผิดปกติทางจิต ชาว LGBTQ+ สมัยก่อนจึงคิดแต่เพียงว่าการเปิดเผยตนเองและการแต่งงานกับคู่รักของตนคงเป็นเพียงแค่ความฝัน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์ (Stonewall Riots) ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่มาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง!

ในตอนนั้น คนรักเพศเดียวกันนั้นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งการแต่งกายไม่ตรงกับเพศกำเนิดก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดมหันในสังคม การได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ได้เปิดเผยความเป็นตัวของตัวเองแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ถือเป็นยาใจให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ ชาว LGBTQ+ จึงนิยมไปรวมตัวกันในที่ Stonewall Inn บาร์ลับยามค่ำคืน ย่านกรีนวิชวิลเลจ สถานที่ที่พวกเขาจะได้เปิดเผยตัวตนของตนเองออกมา

ขณะที่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 มิถุนายน 1969 ตำรวจมาตรวจบาร์ตามปกติ แต่สิ่งที่ต่างจากปกติคือผู้คนในบาร์ขัดขืนต่อการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ การจลาจลปะทุขึ้นจากความรุนแรงระหว่างสองฝ่ายจนขยายวงกว้างออกมาบนถนนบริเวณหน้าบาร์ ทั้งตำรวจและฝูงชนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเหตุการณ์คืนนั้นค่อยๆ ยุติ ทว่าเรื่องไม่จบแค่นั้น คืนต่อมามีผู้คนจำนวนหลายพันคนมาที่บาร์เพื่อชุมนุมและแสดงพลังของชุมชน LGBTQ+ สู่ชาวโลก

เหตุการณ์ครั้งนี้นำมาสู่การเดินขบวนเรียกร้องสิทธิสำหรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ Pride March) ครั้งแรกในวันที่ 28 มิถุนายน 1970 ที่นิวยอร์ก และอีก 3 เมืองใหญ่อย่าง ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโกและชิคาโก เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สโตนวอลล์ จากนั้นเป็นต้นมา ชุมชน LGBTQ+ ก็เริ่มออกมาเดินพาเหรดเพื่อแสดงจุดยืนของตนเอง

ในปี 2000 ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น ‘เดือนแห่งความภูมิใจของชาวเกย์และเลสเบี้ยน’ (Gay & Lesbian Pride Month) และในอีก 9 ปีต่อมา ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ได้ประกาศให้เดือนมิถุนายนเป็น ‘เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาวหลากหลายทางเพศ’ (Lesbian, Gay, Bisexual, and Transgender Pride Month) เพิ่มการตระหนักรู้ถึงความหลากหลายในกลุ่ม LGBTQ+


🌈 บริการของคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย

บริการตรวจสุขภาพทั่วไป

ไม่ว่าจะเป็นตัวแม่ ตัวมารดา ตัวสูตินารีมากแค่ไหน ก็ต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพ ยิ่งอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 18 - 60 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มที่ครอบครัวเคยมีประวัติป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เบาหวาน ควรตรวจร่างกายปีละ 1 ครั้งเพื่อช่วยในการคัดกรองภาวะเสี่ยงของโรค

บริการตรวจเฉพาะทาง

ให้บริการเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การเข้าสู่วัยแรกรุ่นในเด็กและวัยรุ่นข้ามเพศ รวมถึงจ่ายยาการใช้ฮอร์โมนเพศหรือยาฮอร์โมน เพื่อปรับลักษณะทางกายภาพ

บริการทางด้านจิตใจ

ดูแลสุขภาพกายแล้วก็ต้องดูแลสุขภาพใจด้วย หลายคลินิกจึงมีบริการให้คำปรึกษาด้านต่างๆ ทั้งปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้คำแนะนำด้านสุขภาพเพศที่ปลอดภัย รวมถึงช่วยประเมินความพร้อมก่อนการใช้ยาฮอร์โมนหรือการผ่าตัดเพื่อยืนยันเพศสภาพ

บริการศัลยกรรมตกแต่ง

ใคร ๆ ก็อยากดูดีที่สุดในแบบฉบับของตัวเอง หลายคลินิกจึงเปิดให้บริการศัลยกรรมยืนยันเพศสภาพ (Gender-affirming surgery) เช่น การตัดองคชาติ การตัดอัณฑะ การตัดรังไข่ การสร้างช่องคลอด หรือการสร้างอวัยวะเพศชาย รวมไปถึงการศัลยกรรมปรับลักษณะทางกายภาพ เช่น ศัลยกรรมใบหน้าและปรับรูปหน้า การตัดหรือเสริมหน้าอก การผ่าตัดกล่องเสียง และการฝึกพูดเพื่อเปลี่ยนเสียง


🌈 คลินิกสุขภาพเพศหลากหลายมีที่ไหนบ้าง

การตรวจสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญของทุกเพศทุกวัย เพราะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงและภาวะผิดปกติของร่างกายที่อาจเกิดจากโรคร้ายแรงได้ ซึ่งปัจจุบันสังคมไทยให้การยอมรับเรื่องเพศโดยเฉพาะเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น

การติดต่อหรือเข้ารับการปรึกษาปัญหาเรื่องเพศ หรือรักษาเฉพาะทางจึงเป็นเรื่องเปิดเผยมากขึ้นกว่าในอดีต ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยได้มีบริการคลินิกสุขภาพเพื่อความหลากหลายทางเพศอยู่หลายแห่งดังนี้


คลินิกที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงแค่การยกตัวอย่างเท่านั้น ยังมีคลินิกสำหรับชาว LGBTQ+ อีกหลายแห่ง ที่พร้อมให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปตรวจและดูแลสุขภาพกันนะคะ

จะเห็นได้ว่าปัจจุบันทั้งภาครัฐและเอกชนมีการเปิดบริการคลินิกสุขภาพเพศเพื่อเพศที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มหลากหลายทางเพศได้มีโอกาสปรึกษาการใช้ยาหรือปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้มากขึ้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหน ทุกคนก็ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแร็งอยู่เสมอ เพราะการที่เรามีสุขภาพดี ต่อให้ต้องปาร์ตี้หรือโหมงานหักแค่ไหน ร่างกายก็พร้อมสู้ไหวทุกสถานการณ์